สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องหาเอง เริ่มจากอาหาร สมุนไพรเป็นยา

สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องหาเอง เริ่มจากทำอาหารเป็นยา เลือกสมุนไพรเป็นอาหาร

8 โรคของนักบริหาร

   
        มนุษย์ ไม่ว่าชายหรือหญิง  คนหนุ่มสาวหรือผู้สูงอายุ  ต่างหนีความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันไม่พ้น  ยิ่งผู้มีอาชีพบริหารจัดการ  อย่างผู้บริหารระดับสูงหรือ ซีอีโอ (Chief Executive Officer)  ด้วยแล้ว  จะต้องดูแลรับผิดชอบในงานต่าง ๆ ยิ่งต้องเผชิญกับความเครียดรายวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  จาก นิตยสาร ชีวจิต  ฉบับที่ 324  ปีที่  14  :  1  เมษายน  2555  หน้า  36   ชี้ชัด เครียด ก่อโรคร้ายคุกคามผู้บริหาร   ดร.สาทิส  อินทรกำแหง  กูรูต้นตำรับชีวจิต   ได้อธิบายว่า  ความเครียดไม่ใช่เรื่องของจิตหรืออารมณ์เท่านั้น  แต่ความเครียดสามารถก่อให้เกิดผลร้ายต่อสุขภาพร่างกายของเราได้โดยตรง

นายแพทย์ ฮันส์  เซลเยอ (Hans Selye)  แพทย์ชาวออสเตรีย  ผู้ศึกษาด้านฮอร์โมนได้กล่าวว่า  เมื่อคนเราเกิดความเครียด  ฮอร์โมนกว่า  30  ชนิดจะเกิดการปั่นป่วน  ฮอร์โมนบางตัวจะหายไปหรือหยุดทำ งาน  ขณะที่ฮอร์โมนบางตัวจะทำงานหนักมากเกินไป  ทำให้เกิดการเจ็บป่วยทางกาย  เริ่มตั้งแต่เจ็บป่วยเล็กน้อยจนถึงเจ็บป่วยหนักได้ ดร.สาทิส  อินทรกำแหง ได้อธิบายถึงการตรวจร่างกายช่วงที่มีความเครียดจะพบอาการที่ผิดปกติที่นำไปสู่การเจ็บป่วยหลายรูปแบบ  ปัญหาสุขภาพที่เกิดจากความเครียดนั้น อาจสรุปใหญ่ ๆ ได้ดังนี้


ก่อโรคร้าย  เช่น  ทำให้ระดับความดันโลหิตสูงกว่าคนปกติที่ไม่มีความเครียดถึงสองเท่า  ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง

กระตุ้นให้โรคที่เป็นอยู่หนักขึ้น  ฮอร์โมนความเครียดส่งผลต่อการตอบสนองของอินซูลิน(Insulin)ทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาล  อาการต่าง ๆ จึงสำแดงผลออกมา

ทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติ  โดยส่งผลให้ฮอร์โมนเพศชายลดลง  ส่วนผู้หญิงจะทำให้ได้รับผลกระทบต่อการสร้างฮอร์โมนเพศและการตกไข่  ทำให้รอบเดือนมาไม่ตรงเวลา  มีอาการปวดประจำเดือนมากขึ้น

อาการที่แสดงออกเวลามี ความเครียด  เช่น   หัวใจเต้นแรงและหายใจได้ไม่เต็มที่ (Heart palpita tions) หรือจะเป็นลม ปากแห้ง คอแห้ง อาเจียนหรือท้องเดิน ปัสสาวะบ่อย เบื่ออาหาร นอนไม่หลับเหนื่อยง่าย  รู้สึกหมดแรงง่าย

ปัจจุบันโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ต้องรับผิดชอบอย่างสูงในการทำงานจะมาพร้อมกับความเครียด สู่ผู้ที่ต้องรับผิดชอบดังกล่าว  โดยเฉพาะผู้บริหารที่ยิ่งมีความรับผิดชอบสูงเท่าไหร่ ความ เครียดก็จะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคภัยต่าง ๆ ถาโถมเข้ามา ซึ่งศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลกรุงเทพ ฯ ได้เผยแพร่เรื่อง โรคยอดฮิตของผู้บริหาร  ได้แก่

1  โรคความดันโลหิตสูง   จัดเป็นโรคที่ร้ายแรงสุดในกลุ่มของนักบริหาร เพราะการทำงานในวันหนึ่งๆ เผชิญกับความกดดัน ปัญหาสารพัด ทำให้เกิดความเครียดซ้ำ ๆ บ่อยๆ และที่สำคัญยังเป็นสาเหตุที่จะไปก่อโรคอื่น ๆ ตามมา อาทิเช่น โรคหลอดเลือดสมอง สมองตีบ (เกิดอัมพาต อัมพฤกษ์ ส่งผลเกิดไตวาย หลอดเลือดหัวใจ (โรคหัวใจล้มเหลว) วิธีสังเกตุได้จากอาการได้ยินเสียงในหัวดังหวิว ๆ หรือหึ่ง ๆในหู เป็นต้น  ภายนอกยังรับรู้ได้ถึงใจสั่นบ่อย ๆ หัวใจเต็นแรง หงุดหงิดง่ายโดยไม่มีสาเหตุ เหนื่อยเพลียผิดปกติ

2 โรคหลอดเลือดสมอง หรือเรียกสั้นๆ ว่าสโตรก (Stroke) เกิดจากภาวะสมองขาดเลือดไปเลี้ยง สาเหตุจากมีการอุดตัน ของหลอดเลือดที่ลำเลียงเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงสมองและส่วนต่าง ๆ บกพร่อง  ส่งผลให้เกิดเนื้อสมองตายเสียหายทำงานไม่ได้ แบ่งเป้นสองลักษณะ

          2.1 โรคสมองขาดเลือด เกิดจากหลอดเลือดสมองตีบ หรือตัน

          2.2 โรคเลือดออกในสมอง  เกิดจากหลอดเลือดสมองเปราะมีเลือดซึมหรือแตก

สัญญาเตือนโรคเลือดในสมอง  สังเกตุได้จาก  ผู้ป่วยเกิดอาการชา แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ออกพูดไม่ชัด มีปัญหาการมองเห็น เวียนศรีษะเฉียบพลัน ลิ้นแข็งพูดไม่เป็นภาษา การทรงตัวไม่ได้ หรือบางรายหมดสติ

3 โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน  เป็นสาเหตุการตายที่สำคัญอันดับต้นๆ ของประเทศไทย  ภาวะการเกิดอุดตันของหลอดเลือด มาจากการะสมไขมัน คลอเรสเตอรอลในหลอดเลือด ทำให้ไม่สามารถนำเลือดในหลอดเลือดแดงไปเลี้ยงหัวใจได้ตามปกติ อาการส่วนใหญ่มักเกิดอย่างเฉียบพลัน สัญญาบ่งชี้ คือ เจ็บหน้าอกเหมือนมีอะไรมากดทับ  หรือจุกแน่นลึกๆ ใต้กระดูกหน้าอกด้านซ้าย ตาพร่ามัว ปวดศรีษะอย่างแรงแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก หรือวูบเฉียบพลันจนอันตรายถึงแก่ชีวิต

4 โรคมะเร็งตับ  เป็นโรคที่คร่าชีวิตคนไทยอันดับต้นๆ เช่นกัน โดยเฉพาะเพศชายเป็นกลุ่มอัตราเสี่ยงสูง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ชีวิต ดื่มเหล้า หรือติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ โรคพยาธิใบไม้ในตับ (หรือสารอัลฟ่าท๊อกซิน ไนโตรซามิน ที่พบในสารกัดบูด ปลาร้า เนื้อตากแห้ง โดยเฉพาะอาหารที่ใช้ดินประสิวเป็นส่วนประกอบ  อาการที่น่าสังเกตุ คือ เบื้ออาหาร อ่อนเพลีย จุกเสียดแน่นท้อง อาหารไม่ย่อย เจ็บปวดร้าวชายโครงขวา ตาเหลือง ตัวเหลือก ตัวบวม

5 โรคเบาหวาน  เป็นโรคที่เกิดจากการบริโภคอาหารอย่างผิดหลักโภชนาการ (เช่นทานแป้งมาก น้ำตาลมาก หรือเกิดอัตราส่วนต่อวันเกินจนทำให้ไม่สามารถขับออกได้ทางธรรมชาติ ทำให้สะสมอยู่ในร่างกาย) อีกสาเหตุเกิดจากการถ่ายทอดกรรมพันธุ์ ความผิดปกติจะไม่ได้ให้เห็นในระยะแรก เรียกว่าโรคภัยเงียบก็ว่าได้ อาการส่วนใหญ่ อ่อนเพลีย สมองมึนงง  (แน่นอนน้ำตาลในเลือดมีปริมาณสูง ทำให้ระบบหล่อเลี้ยงในเส้นเลือดมีปัญหาตามมาที่อวัยวะทุกส่วนได้รับเลือด ส่งผลกระทบต่อทุกอวัยวะตามไปด้วย) หากตรวจพบแล้วส่วนมากจะมีโรคแทรกซ้อนตามมา วิธีดูแลรักษาต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค และออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อขจัดน้ำตาลส่วนเกินให้เหลือน้อยที่สุด และอยู่ในความดูแลของแพทย์ตลอด เพื่อวัดผลในระยะยาว

6 โรคกระเพาะอาหาร    เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร  เนื่องจากผู้บริหารจำเป็นต้องทุ่มเทการทำงานแข่งกับเวลา ความเคร่งเครียดกับงานจนเกิดปัญหาการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลาอยู่บ่อย ๆ กอรปกับการใช้ชีวิตทางสังคมก็มีผลต่อโรค เช่น การดื่มสุรา สูบบุหรี่ พฤติกรรมเหล่านี้ ส่งผลให้ก่อโรคได้ง่ายและเร่งมากขึ้น อาการส่วนใหญ่ เมื่อรับประทานอาหารเสดร็จมักปวดท้องทันที  ท้องอืดอาหารไม่ย่อย อันเป็นอาการร่วมด้วย

7 โรคถุงลมโป่งพอง  เกิดกับกลุ่มผู้บริหารที่สูบบุหรี่เป็นระยะเวลายาวนานๆ  ส่วนใหญ่อายุ 45 ปีขึ้นไป ปัจจุบันมีแนวโน้มอายุน้อยลงในสิบปีที่ผ่านมา ผู้ป่วยจะมีอาการไอ เรื่อมจากไอแห้ง ๆ และไอมากตอนกลางคืนเนื่องจากนอนห้องนอนปรับอากาศ หรืออากาศเย็น  เหนื่อยง่ายเวลาออกกำลังกาย เป็นหวัด หลอดลมอักเสบบ่อยๆ ขึ้น

8 โรคกระดูกพรุน  เป็นภาวะโรคที่มีเนื้อกระดูกบางลง  สาเหตุจากมีการสร้างเนื้อกระดกน้อยกว่าปกติ มีการทำลายเนื้อกระดูก ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการแตกหัก หรือยุบตัว  มักเกิดกับกลุ่มผู้บริหารเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาวสูงอายุความเสื่อมสภาพจากการไม่ออกกำลังกาย แนวทางการตรวจ ควรจะเข้าตรวจมวลกระดูกหาความหนาแน่นของกระดูกเมื่ออายุเข้าเกณฑ์ 40 ขึ้นไป  ซึ่งในระยะแรกไม่มีอาการบ่งชี้ให้เห็นชัดเจนได้  อาการสำคัญที่พอจะทราบ คือการปวดกระดูกส่วนกลางที่คอยรับน้ำหนักตัว เช่น กระดูกสันหลัง กระดูกสะโพก ความสูงของตัวลดลง หลังโกงค่อม เป็นต้น

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (หรือ สสส.)  มีข้อแนะนำเพื่อช่วยให้ผู้บริหารไม่ต้องประสบกับโรคต่าง ๆดังกล่าวมานี้ คือ ต้องดูแลสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง หมั่นหาเวลาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  เพราะการออกกำลังกายทำให้หัวใจและปอดมีสมรรถภาพดีขึ้น หัวใจทำงานสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ดี ระบบการทำงานทุกอวัยวะแข็งแรง ล้วนช่วยลดความอ้วนขจัดปัญหาไขมันส่วนเกินลดลง ผลดีอีกอย่างคือลดน้ำตาลในหลอดเลือดได้อีกด้วย

นายแพทย์ พิชัย  ดิฐสถาพร  จากโรงพยาบาลเกษมราษฏร์  จงหวัดสระบุรี  ได้กล่าวถึงเรื่องพฤติกรรมการออกกำลังกายที่ถูกต้องทางเวบไซท์  http://www.oknation.net/blog/print.php?id282748 คือ  การออกกำลังกายไม่ใช่เป็นการออกกำลังกายด้วยการทำงานด้วยการพิมพ์คอมพิวเตอร์  คิด  เขียน  ต้องเป็นการทำงานของกล้ามเนื้อชุดใหญ่  ต่อเนื่องกันอย่างน้อย 10  นาที ต้องออกกำลังกายต่อเนื่องกัน  3  ครั้งต่อสัปดาห์  และต้องติดต่อกัน 3  วัน เว้น 1 วัน อย่าให้ห่างเกิน 2 วัน เพราะกระบวนการแอโรบิคจะหายไปนอกจากนี้ ให้ฝึกการหายใจควบคู่กันไปด้วย โดยหายใจเข้าให้ท้องป่อง หายใจออกให้ท้องแฟบ จึงจะถูกต้อง

       นายแพทย์  ชูทิตย์  ปานปรีชา  จิตแพทย์ดีเด่นจากสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย  ได้กล่าวถึง  วิธีจัดการความเครียดส่วนตน  ที่ผู้บริหารสามารถนำไปยึดถือหรือนำไปปฏิบัติไว้เป็นหลักการปฏิบัติทางเวบไซท์http://www.gotoknow.org/blogs/posts/456754  คือ
        1.มองปัญหาในแง่ดีไว้ด้วย  ไม่มองเฉพาะแต่แง่ที่ไม่ดีเท่านั้น  การเผชิญปัญหาจะทำให้มีประสบการณ์  มีความสามารถเพิ่มขึ้นเท่ากับเป็นการให้รู้จักทบทวนการปฏิบัติงาน  สำรวจตนเองว่ามีข้อ บกพร่องหรือไม่
        2. หาทางลดความโกรธให้พิจารณาข้อดีและข้อเสียที่จะเกิดขึ้นไม่ยอมแพ้ ไม่ท้อถอย หาทางสร้างกำลังใจให้ตนเอง  หาทางแก้ปัญหา  การให้อภัย  แผ่เมตตา  จะช่วยลดความโกรธได้
        3. ฝึกตนเองเพื่อทำจิตใจให้สงบเช่น การนั่งสมาธิสงบจิตใจ หรือฝึกทำสมาธิกำหนดลมหายใจเข้าออก จิตใจสงบได้ความเครียดก็จะหนีหายไป
        4. อย่าเอางานหรือปัญหาต่าง ๆ จากที่ทำงานมาที่บ้าน เพราะจะทำให้เพิ่มความเครียด และคนในครอบครัวพลอยเครียดไปด้วย
        5. ไม่ควรทำงานต่อเมื่อรู้ตัวว่ากำลังเครียดควรหยุดไว้ก่อน เปลี่ยนอิริยาบทลุกออกไปเดินเล่น ฟังเพลงเพราะ ๆ ที่ชอบ หรือไม่ก็คุยกับเพื่อนร่วมงานที่มีอารมณ์ขันทำให้ได้หัวเราะ เพื่อลดความเครียดได้
        นอกจากนี้เราต้องฝึกนิสัยการบริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการให้เพียงพอ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันมาก ๆ อาหารที่ปิ้งหรือย่างจนไหม้เกรียมอาหารที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำ ๆ รับประทานผักผลไม้เพิ่มขึ้น ลดเลิกเครื่องดื่มมึนเมาและสิ่งสำคัญที่สุดของผู้บริหารควรทำ คือ  การลดความ เครียดให้ได้มากที่สุด เพราะความเครียดเป็นบ่อเกิดของโรคต่าง ๆ ตามมาอีกหลายอย่าง ครับ



Cr. จาก    เวบไซท์อ้างอิง

1. โรคร้ายใกล้ตัวผู้บริหาร  (Online)  เข้าถึงได้จาก   http://www.oknation.net/blog/print?id530860
               สืบค้น   30/07/2556
2. สำรวจ  8  โรคยอดฮิตผู้บริหาร   (Online)   เข้าถึงได้จาก 
http://health.kapook.com/view.8023.html
              สืบค้น   30/07/2556
3. โรค นักบริหาร   (Online)   เข้าถึงได้จาก   
http://www.gotoknow.org/blogs/posts/456754
              สืบค้น   30/07/2556
4. ระวัง  โรคมะเร็ง  โรคหัวใจ  กลุ่มโรคฮิตของผู้บริหาร  (Online) เข้าถึงได้จาก  
http://hilight.kapok.com/view/4238
              สืบค้น     31/07/2556




อย่าลืมว่า ให้ใช้ อาหารเป็นยา เกิดประสิทธิผลต่อสุขภาพดีที่สุดในการป้องกันโรคภัย  ดีกว่าทานยาเมื่อเจ็บป่วยแล้ว





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น