เป็นภาวะที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เกิดจากความผิดปกติของร่างกายขาดฮอร์โมนอินซูลินหรือการดื้อต่อฤทธิ์ของอินซูลิน ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้ได้ตามปกติ โดยปกติน้ำตาลจะเข้าสู่เซลล์ร่างกายเพื่อใช้เป็นพลังงานภายใต้การควบคุมของฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งผู้ที่เป็นโรคเบาหวานร่างกายจะไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ระยะยาวจะมีผลทำลายหลอดเลือด ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดภาวะโรคแทรกซ้อนตามอวัยวะต่าง ๆ ได้ เช่น ตา ไต ระบบประสาท โรคหลอดเลือดหัวใจ
ประเภทของเบาหวาน แบ่งเป็น 2 ประเภท
เบาหวานชนิดที่ต้องใช้อินซูลิน
เบาหวานประเภทนี้พบน้อย แต่มีความรุนแรงและอันตรายสูง มักพบในเด็กและคนทั่วไปที่อายุต่ำกว่า 25 ปี ในคนสูบอายุก็พบได้บ้าง เกิดจากภูมิต้านทานของร่างกายทำลายเซลล์ ซึ่งทำให้ไม่สามารถสร้างอินซูลินที่ตับอ่อนได้หรือสร้างได้น้อยลง เรียกว่าโรคภูมิต้านทานตัวเองหรือ ออโตอินมูล(autoimmune) เป็นผลมาจากความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ ร่วมกับการติดเชื้อ หรือการได้รับสารพิษจากภายนอก การรักษาต้องใช้ฉีดอินซูลิน และถ้าอาการรุนแรง จะมีการคั่งของสารคีโตน(ketones) สารนี้เป็นพิษต่อระบบประสาท ทำให้หมดสติหรือตายได้
เบาหวานชนิดไม่ต้องใช้อินซูลิน มักพบในผู้ที่มีอายุ 40 ปี ขึ้นไป เป็นเบาหวานที่คนเป็นกันมากที่สุด มีความรุนแรงน้อย เกิดจากภาวะดื้อต่ออินซูลินและมีการหลังอินซูลินลดลง ทำให้เซลล์ที่สร้างอินซูลินค่อย ๆ ถูกทำลายไป ผู้ป่วยมักมีรูปร่างอ้วนและคนในครอบครัวมีประวัติเป็นเบาหวาน หรืออาจจะตรวจพบร่วมกับโรคอื่น ๆ ต้องควบคุมอาหารหรือรับประทานยาลดน้ำตาล ในบางรายที่เป็นมานาน อาจจะต้องฉีดอินซูลิน ในประเทศไทย พบมากที่สุดส่วนสาเหตุอื่น ๆ
เบาหวานที่มีสาเหตุเฉพาะ เช่น โรคเบาหวานจากกรรมพันธุ์ (โรคตับอ่อน ฮอร์โมนผิดปกติ จากยาบางอย่าง เช่น ยาสเตียรอยด์ โรคเบาหวานที่เกิดขณะที่ตั้งครรภ์ จะตรวจพบครั้งแรกขณะที่ตั้งครรภ์ ผู้ป่วยไม่มีประวัติเป็นโรคเบาหวานมาก่อน เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์ มีผลทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน การรักษามักต้องใช้อินซูลิน หลังคลอดเบาหวานมักจะหายไป แต่เมื่ออายุมากขึ้นผู้ป่วยมีโอกาสที่จะเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ได้
สาเหตุของเบาหวาน
โรคนี้เกิดจากตับอ่อนสร้างฮอร์โมนอินซูลิน ได้น้อยหรือไม่ได้เลย ฮอร์โมนชนิดนี้จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลให้เป็นพลังงาน เมื่ออินซูลินในร่างกายไม่พอ หรือมีพอแต่ใช้ไม่ได้ น้ำตาลก็ไม่ถูกนำไปใช้ จึงเกิดการคั่งของน้ำตาลในเลือดและอวัยวะต่าง ๆ เมื่อน้ำตาลคั่งในเลือดมาก ๆ ก็จะถูกไตกรองออกมาในปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะหวาน หรือมีมดขึ้นได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น